คุณลักษณะของโคสายพันธุ์แบรงกัส (Brangus)

สายพันธุ์ Brangus

มีส่วนผสมของ 3/8 Brahman และ 5/8 Angus ได้รับการพัฒนาเพื่อใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติ Heterosis ของโค Angus และ Brahman การผสมระหว่างสองสายพันธุ์นี้ทำให้เกิดสายพันธุ์ที่รวมลักษณะของพ่อแม่พันธุ์ที่มีลักษณะเด่นอย่างสูงสองสายพันธุ์ คือ

โคพันธุ์บราห์มัน Brahman ผ่านการคัดเลือกโดยธรรมชาติอย่างเข้มงวดพัฒนาความต้านทานโรคความแข็งแกร่งโดยรวมและสัญชาตญาณของมารดาที่โดดเด่นเอาไว้…

โคพันธุ์แองกัสแองกัส (Angus) เป็นที่รู้จักในด้านคุณภาพซากที่เหนือกว่าหลาย ๆ สายพันธุ์ นอกจากนี้ ยังเป็นโคตัวเมียยอดเยี่ยมทั้งในด้านความอุดมสมบูรณ์และความสามารถในให้นม

การผสมผสานที่ไม่เหมือนใครของสองสายพันธุ์นี้สร้างความได้เปรียบอย่างลงตัวในด้านความสมบูรณ์พันธุ์ อายุขัย คุณภาพซาก (Carcass) รวมถึงความสามารถในการปรับตัวและความสามารถในการเป็นแม่เลี้ยงลูก…

ข้อมูลจากอดีตแสดงให้เห็นว่าประชากรวัวของสหรัฐอเมริกาอยู่ในระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2495 เนื่องจากปัญหาภัยแล้งที่ยาวนาน ค่าอาหารสัตว์สูงและปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเนื้อโค ในช่วงเวลาต่อมาความแห้งแล้งได้บรรเทาเบาบางลง ราคาข้าวโพดลดลงความต้องการเนื้อโคทั้งในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลกมีมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัว Brangus ที่สามารถตอบสนองการเลี้ยงและตอบสนองด้านคุณภาพซากที่ดี ซึ่งกลายเป็นแรงขับในการสร้างโคฝูงใหม่ให้เริ่มเกิดขึ้นบนโลกใบนี้….

โคสายพันธุ์แบรงกัสนั้น หากมีการจัดการที่ดีจะสร้างโอกาสให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงโคอย่างมากมาย Tommy Perkins ตำแหน่ง Executive Vice President ของ The International Brangus Breeders Association (IBBA). กล่าวว่า “คุณลักษณะที่แข็งแกร่งของแม่โค ที่มีผลมาจาก hetertosis นั้นทำให้โคสามารถทำเงินได้มากขึ้นในตลาดด้วยพันธุกรรมของโค Brangus อีกทั้งลูกโคที่มีความแข็งแรง สามารถเติบโตในทุ่งหญ้าได้ดี ทั้งก่อนหย่านมและหลังหย่านม ที่สามารถสร้างกำไรเป็นกอบเป็นกำให้กับผู้เลี้ยงอีกด้วย”

ลูกโคพันธุ์แบรงกัส มีคุณสมบัติหลายประการที่มีคุณค่าต่อผู้ผลิตเนื้อวัวในเชิงพาณิชย์โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัวที่มาจากอังกฤษ เช่น เฮียร์ฟอร์ดและแองกัส ข้อมูลจากศูนย์วิจัยสัตว์เนื้อสัตว์ประเทศสหรัฐอเมริกา (USMARC) แสดงให้เห็นว่าโคลูกผสม Brangus X English มีศักยภาพในการเติบโตอย่างมาก ประสิทธิภาพการให้นมและผลผลิตเพิ่มขึ้นขณะที่ได้คุณภาพซากที่เท่ากับหรือสูงกว่าพ่อพันธุ์จากยุโรป, Perkins กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “โคตัวเมียพันธุ์ Brangus เป็นแม่โคที่โดดเด่นซึ่งช่วยให้เกิด heterosis กับ Bos taurus cross (ลูกผสมโคยุโรป) X Bos taurus ได้ลูกโคที่สุขภาพดีและอายุยืนยาว ในขณะเดียวกันเนื้อโค Brangus นั้นได้รับการยอมรับในผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมี่ยมมากมายเช่น Certified Angus Beef และ Nolan Ryan All Natural Beef”

เช่นเดียวกันกับโค Angus โค Brangus อาจมีสีดำหรือสีแดง แม้ว่า Brangus จะเป็นที่รู้จักกันดีสำหรับความสามารถในการทนต่อสภาพอากาศที่ร้อนและชื้นมาก แต่พวกมันก็ยังเจริญเติบโตได้ดีในภูมิอากาศที่หนาวเย็นอีกด้วย งานวิจัยยังชี้ให้เห็นว่าวัว Brangus เพิ่มน้ำหนักตัวในช่วงฤดูร้อน ซึ่งเป็นบ่งบอกถึงอิทธิพลของ Bos indicus

จากการวิจัยของ Texas A&M University ยืนยันถึงความสามารถของ Brangus ในการผลิตซากที่มีคุณภาพสูงเป็นพิเศษ การทดสอบประกอบด้วยโคแบรงกัส 330 ตัว วิเคราะห์โดยวิธี Warner-Bratzler analysis (เครื่องมือทดสอบแรงจากการตัดเฉือนชิ้นเนื้อเพื่อวัดความนุ่ม) ระบุว่า 97 % ของ Steak ที่มาจาก Brangus นั้นได้คะแนนที่ “Tender” หรือดีกว่าในขณะที่ 94% เป็น Steak จากโคพันธุ์ Angus….

“นี่คือผลจาก Hybrid Vigor (Heterosis)”

ลักษณะสายพันธุ์และคุณสมบัติที่ดีของโคแบรงกัส 

  1. มีสีดำหรือแดง หนังไม่หนามาก ไม่มีเขาตั้งแต่เกิด (Polled) ใบหูมีขนาดกลางถึงใหญ่ ผิวหนังใต้คอมีรอยพับย่น สะโพกกลมใหญ่และลาด มีโหนกที่สันคอ
  2. มีความเชื่องไม่ดุร้าย
  3. โคตัวผู้เต็มวัย (Bull) น้ำหนักประมาณ 800 – 900 กิโลกรัม (เป็นโคเนื้อขนาดกลาง) อายุประมาณ 24 เดือน พร้อมผสมพันธุ์ตั้งแต่อายุ 18 เดือน
  4. โคตัวเมียเต็มวัย น้ำหนักประมาณ 490 – 540 กิโลกรัม พร้อมผสมพันธุ์ตั้งแต่อายุ 14 เดือน มีลูกตัวแรกได้ตั้งแต่อายุ 2 ปี
  5. มีความอดทนต่อสภาพภูมิอากาศแบบต่าง ๆ ได้ดี แม้ในสภาวะอากาศแบบร้อนชื้น สามารถกินพืชได้หลากหลายชนิดใน เลี้ยงได้ดีในสภาพทุ่งหญ้า
  6. เป็นแม่โคและลูกโคที่ดี แข็งแรง ลูกโคขณะคลอดมีขนาดกำลังพอเหมาะทำให้คลอดง่าย อัตราการรอดตายสูง